B52 ฉลุยย้ายหุ้นเทรดหมวดพาณิชย์ ประเดิม 11 มิ.ย.นี้เชื่อกระแสตอบรับอบอุ่น

B52 ฉลุยย้ายหุ้นเทรดหมวดพาณิชย์ ประเดิม 11 มิ.ย.นี้เชื่อกระแสตอบรับอบอุ่น

บมจ.บี-52 แคปปิตอล (B52) ติดปีกบิน หลังตลาดหลักทรัพย์อนุมัติ ย้ายหุ้นเทรดจากกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค หมวดธุรกิจแฟชั่น ไปอยู่กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ ประเดิมวันที่ 11 มิ.ย.นี้ ฟาก "นราวดี วรวณิชชา"ซีอีโอ ระบุการย้ายหุ้นเทรดหมวดพาณิชย์ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน หลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เดินหน้าขยายธุรกิจเครือข่ายค้าปลีกทั่วประเทศกว่า120,000 ร้านค้า ผ่านแพลตฟอร์ม "ทันใจดี"เต็มสปีด พร้อมลุยธุรกิจออนไลน์ และดิจิทัล หนุนผลงานปีนี้เทิรน์อะราวด์ ผลักดันอนาคตเติบโตยั่งยืน

นางสาวนราวดี วรวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี-52 แคปปิตอล (B52) เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดแนวทางในการทบทวนและปรับย้ายกลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน โดยพิจารณาจัดตามประเภทธุรกิจที่สร้างรายได้ส่วนใหญ่ให้บริษัทเป็นสำคัญ และจะทบทวนความเหมาะสมของกลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนทุกบริษัทเป็นประจำทุกปี

ทั้งนี้ จากการพิจารณาโครงสร้างรายได้ และลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัท ประกอบกับข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2563 (แบบ 56-1) และงบการเงินประจำปี 2563 แล้ว พบว่ามีบริษัทที่โครงสร้างรายลักษณะการประกอบธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้ปรับย้ายบริษัทให้อยู่กลุ่มอุตสาหกรรม และหมวดธุรกิจที่เหมาะสมยิ่งขึ้น โดย บมจ.บี-52 แคปปิตอล (B52) มีรายได้หลักจากธุรกิจการให้บริการทางพาณิชย์ จัดจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท จึงปรับย้ายจากกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) หมวดธุรกิจแฟชั่น (Fashion) ไปยัง กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ (Services) หมวดธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) และการปรับย้ายกลุ่มอุตสาหกรรม และหมวดธุรกิจให้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป

"การย้ายหุ้น B52 เข้าไปซื้อขายในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการหมวดพาณิชย์ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน หลังจากที่บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อให้มีรายได้และกำไรเติบโตได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกันหมวดพาณิชย์ เป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ดังนั้นหุ้นของบริษัทน่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีด้วยเช่นกัน"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี2564 บริษัทวางเป้าหมายกลับมาเทิร์นอะราวด์ หลังปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ซึ่งมีเป้าหมาย และแนวทางที่ชัดเจน มุ่งเน้นการทำธุรกิจในเครือข่ายค้าปลีกทั่วประเทศกว่า 120,000 ร้านค้า ผ่านแพลตฟอร์ม "ทันใจดี" ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal ซึ่งจะทำให้ร้านค้าปลีกมีความเข้มแข็ง และเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท B52 อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัทกำลังดำเนินงานธุรกิจผ่านร้านค้าปลีกในเครือข่าย เช่น การให้บริการทางการเงินกับพันธมิตรแก่ร้านค้า (B2B) และ แก่ลูกค้าของร้านค้า (B2C) ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทฯ เช่น สินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อรถแลกเงิน เป็นต้น รวมทั้งบริษัทได้เพิ่มรูปแบบการให้บริการสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบครบวงจร ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ผ่านร้านค้าปลีกทั่วประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทกำลังดำเนินงานขยายธุรกิจออนไลน์ และดิจิทัล ผ่านบริษัท วันดิจิตอลเน็ตเวิร์ค จำกัดซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ B52 ที่มีฐานลูกค้ากว่า 2 ล้านคนในแต่ละเดือน หรือ 24 ล้านคนในแต่ละปี โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้และกำไรให้บริษัทได้เพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย

ข่าวเกี่ยวข้อง